Iron Man เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ด้วยชุดเกราะสุดเท่ห์ที่สามารถบินได้และปล่อยพลังสู้กับเหล่าร้ายได้ ฟังดูแล้วมันคงเป็นได้แค่การ์ตูนที่สร้างความสนุกกับทุกคนเท่านั้น การที่มนุษย์คนนึงจะสามารถบินได้เหมือน Iron Man นั้นคงเป็นเรื่องยาก แต่ความคิดนี้ถูกหักล้างไปทันทีเมื่อล่าสุดมีผู้ที่สามารถคิดค้นชุดสูทเครื่อง jet ที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถบินได้เหมือนกับกำลังชุดเกราะของ Iron Man ขึ้นมาได้สำเร็จ

โครงการนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ของ Richard Browning ซึ่งสิ่งประดิษฐ์นี้ถูกใช้ชื่อว่า Gravity นับว่าเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเก่ามาปรับปรุง และพัฒนาต่อจนทำให้สิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ การทำงานของชุด Gravity นี้จะมีเครื่องยนต์ไอพ่นขนาดเล็กทั้งหมด 5 เครื่อง ซึ่งจะมีหนึ่งเครื่องอยู่ด้านหลังเป็นตัวปล่อยไอพ่นให้เราสามารถลอยจากพื้นได้ และอีก 4 เครื่องที่ถูกแบ่งไว้ข้างละสองเครื่องที่แขนทั้งสองข้าง เพื่อใช้ในการควบคุมทิศทางจากการหักองศาของมือ ซึ่งเครื่อง Gravity นี้สามารถบินได้นานสุดกว่า 9 นาทีต่อครั้ง มีการเติมเชื้อเพลิงโดยจะถูกเก็บไว้ที่เครื่องด้านหลัง สามารถบินได้สูงถึง 12,000 ฟุต ด้วยความเร็ว 32 mph (Mile per hour) หรือไมล์ต่อชั่วโมง ตัวของชุดทั้งหมดโดยรวมเครื่องยนต์ไอพ่นขนาดเล็ก 5 ตัวแล้ว ไม่รวมการเติมเชื้อเพลิง มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 27 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างมีน้ำหนักอยู่เหมือนกัน

แน่นอนว่าถึงจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่คุ้นเคย จึงจำเป็นต้องมีการฝึกฝนอย่างจริงจัง ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้ขึ้นบินจริงได้ เหมือนกับการเล่นสเก็ตบอร์ดหรือโรลเลอร์เบลด ที่เราจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญและฝึกฝนอย่างหนัก จนสามารถเล่นได้อย่างปลอดภัย ซึ่ง Gravity นั้นมีรูปแบบการให้ฝึกและทดลองการใช้จริงโดยการนำเทคโนโลยี Visual Reality หรือ VR เข้ามาช่วย

ล้ำหน้าไปไกล กับประสบการณ์ใส่ชุด Gravity แบบจำลอง

                ชุด Gravity นั้นให้ซื้อจริงได้แล้วที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยราคา 445,000 ดอลลาร์ หรือแปลงเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 14,871,900 บาทไทย เป็นราคาที่สูงสมกับความสามารถของชุดนี้ แต่อย่างที่กล่าวไปว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถใช้งานชุดนี้ได้ ถ้าไม่ได้มีการฝึกฝนที่ดีจนเชี่ยวชาญพอ เนื่องด้วยเรื่องของความปลอดภัย และการใช้งานที่ถูกต้อง จึงจำเป็นต้องมีการฝึกใช้งานจนเชี่ยวชาญก่อน ทางบริษัทจึงได้พัฒนา VR สำหรับจำลองสถานการณ์การใส่ชุดนี้ เหมือนกับผู้ใช้งานกำลังใส่ชุดนี้บินอยู่เหนือพื้นดินจริง ๆ

โดยจะแทนเครื่องยนต์ที่ปล่อยไอพ่นควบคุมทิศทางด้วยรีโมทของ VR และใส่แว่น VR เพื่อมาเห็นวิสัยทัศน์จริง ๆ ตอนที่ได้ใส่ชุดนี้ นอกจากจะเป็นการฝึกความเคยชินในการบังคับชุดนี้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังเป็นการได้ให้ลองสินค้าโดยที่ไม่จำเป็นต้องซื้อไปใช้จริงก็ได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับลูกค้าที่กำลังสนใจจะซื้อ

ซึ่งตอนนี้มีสินค้าอยู่  9 ชิ้นที่ทำมาเพื่อปล่อยขายจริงแล้ว เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ายินดีและกล่าวได้ว่าไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ทำไม่ได้ หลังจากนี้อาจจะมีการพัฒนาให้สามารถใช้พลังงานได้น้อยลง น้ำหนักของชุดที่น้อยลง และมีความปลอดภัยในการใช้งานได้มากขึ้น นี่อาจจะเป็นอีกสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเปลี่ยนโลกและแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ในอนาคตที่เราจะต้องคอยติดตามกันต่อไป