Tag Archive: สุขภาพ

หูฟังสำหรับลดน้ำหนักผู้ช่วยคนใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ

การมีน้ำหนักส่วนเกินถือเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ต่อคนจำนวนมาก เพราะการมีน้ำหนักที่มากเกินไปนั้น นอกจากจะทำให้มีความรู้สึกอึดอัดในการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว ยังนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคเบาหวาน เป็นต้น การมีน้ำหนักเกินนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพทางร่างกายแล้ว ยังส่งผลเสียต่อภาวะทางจิตด้วย เพราะคนที่มีน้ำหนักเกินมักจะเกิดความเครียดในเรื่องของรูปร่าง  ที่มีไขมันส่วนเกินทำให้หาเสื้อผ้าที่เหมาะกับรูปร่างลำบาก เพราะในปัจจุบันเสื้อผ้าส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าที่ทำมาสำหรับคนน้ำหนักปกติ หรือเมื่อใส่เสื้อผ้าแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะใส่ออกมาแล้วรู้สึกว่าไม่สวยงามตามที่ต้องการ ทำให้รู้สึกว่าตนเองไม่เหมือนกับคนปกติทั่วไปในสังคม อันนำไปสู่ภาวะทางอารมณ์ที่หงุดหงิดง่ายกว่าปกติ หรือถ้ารุนแรงอาจจะเกิดความเครียดจนนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้ และถ้าปัญหาทางสุขภาพจิตเหล่านี้ไม่ได้รับการบำบัด หรือ รักษาก็อาจจะนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ ดังนั้น การมีน้ำหนักปกติจึงกลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการ

การที่จะมีน้ำหนักปกติได้นั้น หลัก ๆ ก็ต้องมาจากการดูแลสุขภาพที่ดี เริ่มตั้งแต่การรับประทานอาหารที่ไม่มากจนเกินความจำเป็นของร่ายกาย และควรจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น รวมไปจนถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมการรับประทานอาหารนั้นทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต การรับประทานอาหารจึงเป็นเรื่องปกติในการใช้ชีวิต นวัตกรรมหูฟังสำหรับลดน้ำหนักถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักโดยเฉพาะ เพราะหูฟังสำหรับลดน้ำหนักนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการกระตุ้นระบบประสาทของผู้สวมใส่ให้ไม่อยากที่จะรับประทานอาหารมาก หรือบ่อยจนเกินไป การทำงานเพียงแค่ใส่หูฟังไว้บริเวณศีรษะต่อสายของชุดหูฟังให้ครบทุกจุด จากนั้น กดปุ่มเปิดเพื่อเริ่มการทำงาน การทำงานของหูฟัง คือ หูฟังจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา เพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมใต้สมองส่วนล่างภายในร่างกายของมนุษย์ให้ไม่รู้สึกอยากรับประทานอาหาร และหูฟังสำหรับลดน้ำหนักนี้ยังช่วยเร่งอัตราในการเผาผลาญของร่ายกายให้มากกว่าปกติได้อีกด้วย ระยะเวลาในการใช้งานที่เห็นผล คือ เมื่อใช้หูฟังประมาณ 3 เดือน ผู้ใช้งานจะพบว่าน้ำหนักลดลงประมาณ 3 กิโลกรัม ถือเป็นอัตราการลดน้ำหนักที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่เหมือนการใช้ยาลดน้ำหนักที่จะทำให้ร่างกายเกิดผลเสีย หรือผลกระทบที่ตามมาอย่างมากมาย และยังเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่เจ็บตัวจากเข็มฉีดยาต่าง ๆ หรือ ไม่ต้องทรมานจากการอดอาหารด้วยตนเองอีกด้วย

การมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีน้ำหนักส่วนเกินนั้นเป็นเรื่องที่คนในสังคมปรารถนา เมื่อมีหูฟังสำหรับลดน้ำหนักเป็นผู้ช่วยที่สำคัญแล้ว ก็อย่าลืมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่ไปด้วย เพียงแค่นี้สุขภาพร่างกายก็จะสวยงาม สมส่วน ไม่นำปัญหาน้ำหนักส่วนเกิน และสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ

 

เมื่อการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายผสานเข้ากับเทคโนโลยี

ในช่วงเวลานี้คงไม่มีเทรนด์อะไรที่มาแรง และได้รับความนิยม มากไปกว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกายของคนในยุคนี้อีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ก็จะเห็นผู้คนทุกเพศทุกวัยพากันออกกำลังกาย รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น ซึ่งนอกจากวิธีการดูแลสุขภาพที่บอกไปนั้น รู้หรือไม่ว่าก็ยังได้มีการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการออกกำลังกายด้วย เรามาลองดูว่าประโยชน์ต่อสุขภาพจากเทคโนโลยีนั้นมีอะไรกันบ้าง

  1. เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย

จากที่เราจะเห็นได้ว่ามีคนที่นำเอาเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือตัววัดการใช้พลังงานของร่างกาย มาเป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ในการออกกำลังกาย ซึ่งขอบอกเลยว่าถ้าหากคุณนั้นได้ลองใช้ดูบ้าง จะเห็นได้เลยว่าการนำเอาเทคโนโลยีการตรวจวัดอัตราต่าง ๆ เข้ามาใช้จะช่วยทำให้การออกกำลังกายของคุณประสบผลสำเร็จมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ก็จะรู้ได้ว่าใช้พลังงานไปเท่าไร ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ในการวางแผนดูแลตัวเองได้อีกด้วย

  1. เพิ่มความสุขในการออกกำลังกาย

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไม่มีความสุข หรือไม่สนุกเวลาที่ออกกำลังกาย ก็เป็นเพราะว่าผลสำเร็จจากการออกกำลังนั้นต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล แต่การนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะทำให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างสนุกมากขึ้น อย่างเช่นการสร้างกลุ่มคนรักกีฬาประเภทเดียวกันบน Social Media หรือจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันออกกำลังเพื่อ Challenge ตัวเอง ก็จะทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับการดูแลตัวเองได้มาก และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

  1. เทคโนโลยีเป็นได้ทั้งโค้ชและหมอส่วนตัว

หากเราลองเข้าไปค้นหาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับสุขภาพใน Store ดู ก็จะเห็นได้ว่ามีแอปมากมายที่เราสามารถโหลดมาใช้ได้แบบฟรี ๆ ซึ่งนอกจากจะนำมาใช้ในการออกกำลังกายให้ได้ผลดีแล้ว ก็ยังมีแอปที่สามารถช่วยให้การออกกำลังของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย แถมเรายังสามารถที่จะจดบันทึกข้อมูลสุขภาพลงไป แล้วให้โปรแกรมวิเคราะห์ได้ด้วย เรียกได้ว่าเพียงแค่สมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ก็เป็นไปทั้งโค้ชออกกำลังกายและคุณหมอส่วนตัวได้เลยนะเนี่ย

เพราะว่าการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี และเป็นสิ่งที่คนทุกคนควรให้ความสำคัญ แต่เพื่อให้ได้ผลที่ดีขึ้นกว่าเดิม การเลือกเทคโนโลยีเข้ามาใช้ร่วมไปกับสุขภาพ ก็จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดูแลตัวเองของเราดียิ่งขึ้น ว่าแล้วเราก็หยิบสมาร์ทโฟนของเราขึ้นมาแล้วไปออกกำลังกายกันเลยดีกว่า

 

ข้อสังเกตว่าคุณเป็นคนติดเทคโนโลยีมากแค่ไหน

ถ้าจะให้พูดกันจริง ๆ แล้ว จะถือได้ว่าการใช้ชีวิตของเราทุกวันนี้นั้น ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ทั้งการทำงาน ติดต่อสื่อสาร หรือความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ หรือเรียกได้เลยว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไร ต่างก็ต้องใช้และพึ่งพาเทคโนโลยีไปเสียทั้งหมด ซึ่งสิ่งนั้นเองที่ทำให้เราอาจกลายมาเป็นคนที่ติดเทคโนโลยีได้ แต่ก่อนที่เราจะมาดูว่าเรานั้นเข้าขั้นติดการใช้งานเทคฯ มากแค่ไหน ลองมาดูผลเสียที่จะเกิดขึ้นกันก่อนเลย

ผลเสียถ้าหากว่าคุณติดการใช้งานเทคโนโลยีมากเกินไป

หากว่าเราใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป ก็จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากคนที่เป็นผู้ใช้ กลายมาเป็นคนที่ตกเป็นทาสของเทคโนโลยีได้ ด้วยสาเหตุเพราะว่าเทคโนโลยีนั้น เป็นสิ่งที่มอบทั้งความสะดวกสบายและความรวดเร็วใจการใช้ชีวิต ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็สบายไปเสียทุกอย่าง จนทำให้เราติดความสบายมากจนเกินไป แน่นอนว่ายังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของตัวเราเองอีกด้วย นั่นหมายความว่าการใช้งานเทคโนโลยีให้พอดี คือสิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญ ว่าแล้วก็ลองมาสำรวจดูกันว่าคุณนั้นเป็นคนที่ติดเทคโนโลยีมากแค่ไหนกันดีกว่า

ดูจากสิ่งแรกที่คุณทำหลังจากตื่นนอนใหม่ ๆ

ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่พอตื่นนอนตอนเช้ามาแล้ว ก็จะต้องจับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมา เพื่อเข้าไปเช็คสถานะและความเคลื่อนไหวของ Feed ข่าวใน Social Media มากกว่าการลุกขึ้นไปเปิดโทรทัศน์เพื่อดูข่าวจริง ๆ นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังเข่าสู่การติดสื่อสังคมออนไลน์ระยะแรกแล้ว เพราะในการใช้ชีวิตแต่ละวันของคนเราสิ่งที่เราทำในตอนเช้าหลังตื่นนอน คือตัวบอกความสนใจในชีวิตได้เป็นอย่างดี

ในหนึ่งวันคุณอยู่ที่หน้าจอมากแค่ไหน

ลองไม่นับเวลาทำงานที่คุณจะต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน ให้คุณลองนับดูว่าเราใช้เวลาในหนึ่งวันไปกับการดูจอโทรศัพท์ หรือ Laptop มากแค่ไหน ถ้าคิดเป็นเวลาส่วนใหญ่ใน 24 ชั่วโมงได้ นั่นก็แสดงว่าคุณติดอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไป ต่อให้คุณจะใช้มันเพื่อทำอะไรก็ตาม ทางที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพ และปัญหาต่อดวงตาที่ตามมา ก็ลองลดเวลาให้น้อยลงมากกว่านี้ แล้วออกไปข้างนอกหาอะไรทำเพื่อตัวเอง ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยนะ

เป็น Check List ที่คุณจะต้องรีบนำไปใช้ตรวจสอบตัวเองกัน ถ้าหากใครมีสักข้อสองข้องนี่ก็ต้องรีบแก้ไขตัวเองกันอย่างด่วนที่สุดเลยนะ จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคต แถมยังช่วยให้เราอยู่อย่างมีความสุขและรักตัวเองได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย รู้แล้วก็รีบทำด้วยนะ