Digital Transformation กับธุรกิจเป็นเรื่องเดียวกัน

ในโลกที่ธุรกิจการค้ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด พร้อม ๆ กับความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวให้อยู่ได้ในกระแสสังคมที่อะไร ๆ ก็ขึ้นอยู่กับข้อมูล ยิ่งในยุคของโลกดิจิทัลด้วยแล้วหากผู้ประกอบการรายใดสามารถดึงเอาศักยภาพของนวัตกรรม และประโยชน์ของข้อมูลดิจิทัลเข้ามาเป็นจุดเด่นในการพัฒนาธุรกิจของตนเอง ก็อาจคาดการณ์ได้ว่า ในไม่ช้าผู้ประกอบการรายนั้นคงสามารถที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของธุรกิจนั้น ๆ ได้ไม่ยาก

การนำเอาแนวคิดในเรื่องของเทคโนโลยีและประโยชน์จากข้อมูลดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในด้านธุรกิจ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาไปของสินค้าและบริการ เป็นผลมาจากแนวคิดในเรื่องของ Digital Transformation เพราะเทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัลนั้นก็คล้ายกันกับโลกของธุรกิจ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจึงต้องไม่หยุดที่จะคิดหาหนทางในการปรับปรุงและพัฒนาสินค้าของตนเอง ให้มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในสังคมยุค 4.0 ได้อย่างสูงสุด

วิธีการหลัก ๆ ที่สามารถนำเอาแนวคิดของ Digital Transformation มาประยุกต์ใช้ ได้แก่ การนำเอาข้อมูลดิจิทัลมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อหาทางสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการสร้างจุดเด่นหรือจุดขายของสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค การมุ่งเน้นนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งการปรับเปลี่ยนแนวทางของธุรกิจให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัล เช่น การทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน Facebook Twitter Instagram Line หรืออื่น ๆ

ตัวอย่างธุรกิจที่มีการนำเอา Digital Transformation มาประยุกต์ใช้แล้วสร้างความฮือฮาในสังคมไทยไม่น้อย คือ นวัตกรรมที่ชื่อว่า “Jubilee iMOMENT” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) Jubilee บริษัทที่ให้บริการสินค้าประเภทเครื่องประดับตกแต่งที่ทำมาจากเพชร กับ บริษัท แอท แวน เทจAtVantage บริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาและการให้บริการด้าน Big Data และ Machine Learning ของประเทศไทย โดยนวัตกรรมนี้เป็นการคิดค้นแอปพลิเคชันสำหรับเก็บรวบรวมช่วงเวลาดีดีของคู่รัก แล้วเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับแหวนเพชรแต่งงาน โดยอาศัยเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) ทำให้แหวนเพชรไม่ได้มีแค่เพียงความสวยงามหรือมีไว้ประดับตกแต่งร่างกายเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ทุกครั้งเมื่อใดก็ตามที่มีการใช้สมาร์ทโฟนแสกนไปยังแหวนเพชรผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงข้อมูลคู่รักเหล่านั้นได้ทันที เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า และสร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่และความประทับใจให้กับลูกค้า ทำให้สินค้ามีความโดดเด่นแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่งโดยสิ้นเชิง

จากตัวอย่างธุรกิจที่กล่าวมานั้น คาดการณ์ได้ไม่ยากเลยว่าในอนาคตอันใกล้ ในโลกของธุรกิจคงมีสินค้าใหม่ ๆ ที่เกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัลในการปรับปรุงพัฒนาต่อยอดสินค้าให้มีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้นอีกมากมายอย่างแน่นอน